294/1 Asia Building (11th Floor), Phyathai, Bangkok
ตรวจ HIV รีวิวความรู้สำหรับการตรวจเอชไอวี (HIV test)
![](https://gloveclinic.com/wp-content/uploads/2023/08/S__1941512_0.jpg)
Human papillomavirus (HPV) เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบบ่อยที่สุดทั่วโลก อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนทางสุขภาพต่างๆ รวมถึงหูดที่อวัยวะเพศและมะเร็งบางชนิด อย่างไรก็ตาม มีเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการต่อสู้กับภัยเงียบนี้ นั่นคือ วัคซีน HPV
ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ HPV:
HPV หมายถึงกลุ่มของไวรัสที่ติดเชื้อในผิวหนังและเยื่อเมือก ส่วนใหญ่ติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ และใครก็ตามที่มีเพศสัมพันธ์มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้ เชื้อ HPV มีมากกว่า 100 ชนิด โดยบางสายพันธุ์มีความเสี่ยงสูงในการก่อให้เกิดมะเร็ง และเชื้ออื่นๆ ที่ก่อให้เกิดหูดที่อวัยวะเพศ
ความสำคัญของการฉีดวัคซีน HPV:
- การป้องกันมะเร็งปากมดลูก: การติดเชื้อ HPV เป็นสาเหตุสำคัญของมะเร็งปากมดลูก การฉีดวัคซีนสามารถลดความเสี่ยงของการเกิดโรคที่คุกคามชีวิตนี้ได้อย่างมาก เป็นสิ่งสำคัญสำหรับเยาวชน ทั้งชายและหญิงที่จะต้องได้รับการฉีดวัคซีนก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์
- การป้องกันมะเร็งอื่นๆ: นอกจากมะเร็งปากมดลูกแล้ว HPV ยังสามารถก่อให้เกิดมะเร็งชนิดอื่นๆ ได้อีกด้วย เช่น มะเร็งทวารหนัก ช่องคลอด ปากช่องคลอด องคชาติ และมะเร็งช่องปาก (คอ) การฉีดวัคซีนทำให้แต่ละคนมีโอกาสเกิดมะเร็งเหล่านี้น้อยลงในภายหลัง
- การป้องกันหูดที่อวัยวะเพศ: สายพันธุ์ HPV ที่ทำให้เกิดหูดที่อวัยวะเพศนั้นติดต่อได้สูง วัคซีนป้องกันสายพันธุ์เหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงของการแพร่เชื้อและการเกิดหูดที่อวัยวะเพศ
- Herd Immunity: การฉีดวัคซีน HPV ไม่เพียงแต่ปกป้องผู้ที่ได้รับวัคซีนเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างภูมิคุ้มกันหมู่อีกด้วย โดยการลดความชุกของเชื้อ HPV ในชุมชน วัคซีนจะช่วยปกป้องบุคคลที่ไม่ได้รับวัคซีน รวมถึงผู้ที่ไม่สามารถรับวัคซีนได้เนื่องจากเหตุผลทางการแพทย์
ความปลอดภัยและประสิทธิผลของวัคซีน:
การวิจัยอย่างกว้างขวางและการทดลองทางคลินิกจำนวนมากได้แสดงให้เห็นถึงความปลอดภัยและประสิทธิผล ของวัคซีนเอชพีวี วัคซีนนี้แนะนำสำหรับทั้งชายและหญิง โดยทั่วไปแล้วฉีดสองหรือสามครั้งในช่วงหลายเดือน ผลข้างเคียงที่พบบ่อย (หากมี) จะไม่รุนแรงและเกิดขึ้นชั่วคราว เช่น อาการเจ็บบริเวณที่ฉีด
วัคซีน HPV เป็นเครื่องมือสำคัญในการป้องกันภาวะแทรกซ้อนทางสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับ HPV รวมถึงมะเร็งปากมดลูกและหูดที่อวัยวะเพศ โดยการฉีดวัคซีน บุคคลต่างๆ ไม่เพียงแต่ป้องกันตนเองเท่านั้น แต่ยังช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อ HPV ในชุมชนโดยรวมอีกด้วย ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัคซีน HPV และความเหมาะสมสำหรับคุณหรือคนที่คุณรักไม่ว่าเพศใดก็ตาม เพราะการป้องกันย่อมดีกว่าการรักษาเสมอครับ
สำหรับท่านที่สนใจ หรือต้องการสอบถามเกี่ยวกับวัคซีนป้องกันไวรัส HPV เพิ่มเติมสามารถติดต่อโกลฟคลินิกได้ทาง Line Official (@gloveclinic) หรือ inbox ผ่านเพจ Glove Clinic หรือโทร 092-414-9254
บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้แทนคำแนะนำทางการแพทย์ ปรึกษากับผู้ให้บริการด้านสุขภาพเสมอเพื่อขอคำแนะนำส่วนบุคคลเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนและปัญหาด้านสุขภาพ
ความรู้ที่น่าสนใจเกี่ยวกับไวรัส HPV
- ปัจจุบันทราบดีว่าไวรัส HPV คือสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูก ซึ่งเป็นมะเร็งที่พบบ่อยเป็นอันดับ 2 ของผู้หญิง จากข้อมูลทางสถิติพบว่าในปีค.ศ. 2020 ทั่วโลกจะมีผู้หญิงที่เพิ่งตรวจพบว่าเป็นมะเร็งปากมดลูกถึง 6 แสนคน
- HPV (Humanpapilloma virus) สามารถติดต่อกันได้ง่ายโดยการสัมผัสหรือมีเพศสัมพันธ์ โดยที่ผู้รับเชื้อนั้นอาจจะไม่แสดงอาการอะไรเลย หรืออาจจะเกิดก้อนเนื้อที่ไม่ใช่มะเร็งตรงบริเวณที่เชื้อไวรัสเข้าไปหรือที่เรียกกันว่าหูด หรืออาจจะทำให้เซลล์บริเวณนั้นแบ่งตัวผิดปกติจนกลายเป็นมะเร็ง ซึ่งพบได้ทั้งมะเร็งปากมดลูก, มะเร็งทวารหนัก, มะเร็งองคชาติ, และมะเร็งคอหอย
- ในช่วง 40 ปีก่อน (สมัยค.ศ. 1970-1980) ยังเชื่อกันว่าสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูกก็คือฮอร์โมน, กรรมพันธุ์, หรือไวรัสเริม (Herpes Simplex virus type 2) จนกระทั่งแพทย์และนักไวรัสวิทยาชาวเยอรมัน Harald zur Hausen มาเป็นคนที่เปลี่ยนความเชื่อนี้
- ในปีค.ศ. 1984 Harald zur Hausen ในตีพิมพ์งานวิจัยที่แสดงการตรวจพบไวรัส HPV ในกลุ่มคนไข้มะเร็งปากมดลูกและอีกทั้งยังช่วยพิสูจน์ว่า HPV สามารถก่อมะเร็งได้ที่อวัยวะเพศของทั้งเพศชายและเพศหญิง แม้ว่าผลงานของคุณหมอ zur Hausen จะไม่ได้รับการยอมรับในช่วงแรกจากความเชื่อที่กล่าวมา แต่สุดท้าย Harald zur Hausen ได้รับการยกย่องในการค้นพบนี้และได้รับรางวัลโนเบลสาขาการแพทย์ในปีค.ศ. 2008
- ต่อมาในปีค.ศ. 1991 นักวิจัยชาวออสเตรเลียและชาวจีน Ian Frazer และ Jian Zhou ได้ทำการศึกษาที่ University of Queensland โดยศึกษาโปรตีนที่มีความคล้ายคลึงชิ้นส่วนของไวรัส HPV (virus-like particle หรือ VLP) เพื่อนำไปทดลองใช้เป็นวัคซีนเพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัส HPV
- ในที่สุดวัคซีนป้องกันไวรัส HPV (Gardasil จากบริษัท MSD) จึงได้รับการยอมรับและมีการให้ฉีดในเด็กผู้หญิงและผู้ชายในปีค.ศ. 2006 โดยเริ่มใช้ที่สหรัฐอเมริกาและออสเตรเลียก่อนที่จะมีใช้กันอย่างแพร่หลายกันทั่วโลก
- เริ่มแรกวัคซีนป้องกันไวรัส HPV สามารถครอบคลุมไวรัสได้ 4 สายพันธุ์ (6, 11, 16, 18) ซึ่งเลือกจากสายพันธุ์ที่ทำให้เกิดมะเร็งได้บ่อย โดยสถิติบอกว่าพบสายพันธุ์ 16 และ 18 ราว 70% ของคนไข้มะเร็งปากมดลูก และพบถึง 90% ของคนไข้มะเร็งทวารหนัก
- ในปีค.ศ. 2014 จึงได้มีการนำวัคซีนป้องกันไวรัส HPV รุ่นใหม่มาใช้ ซึ่งสามารถครอบตลุมได้ 9 สายพันธุ์ (Gardasil 9) ซึ่งนอกจาก 4 สายพันธุ์ที่มีอยู่เดิม บริษัทยาได้เพิ่ม 5 สายพันธุ์ที่เป็นเหตุให้เกิดมะเร็งปากมดลูกได้อีก 20% (31, 33, 45, 52, 58)
- นอกจากวัคซีนป้องกันไวรัส HPV จะสามารถใช้ป้องกันมะเร็งที่เกิดจาก HPV ได้แล้ว ยังมีข้อมูลที่บอกว่าวัคซีนยังช่วยป้องกันหูดซึ่งเป็นโรคเกิดจาก HPV เช่นกันรวมถึงเอาวัคซีนมาร่วมใช้เพื่อช่วยให้การรักษาหูดได้ผลมากยิ่งขึ้น
- ปัจจุบันช่วงอายุที่แนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัส HPV สามารถเริ่มได้ตั้งแต่อายุ 9 ปีและสฉีดได้จนถึงอายุ 45 ปีจากเดิมที่เคยแนะนำให้ฉีดถึงแค่อายุ 26 ปี โดยสามารถให้ได้ทั้งเพศหญิงและเพศชาย และให้ฉีด 3 เข็มภายในระยะเวลา 6 เดือน
สำหรับท่านที่สนใจ หรือต้องการสอบถามเกี่ยวกับวัคซีนป้องกันไวรัส HPV เพิ่มเติมสามารถติดต่อโกลฟคลินิกได้ทาง Line Official (@gloveclinic) หรือ inbox ผ่านเพจ Glove Clinic หรือโทร 092-414-9254
Make Appointment![](data:image/svg+xml,%3Csvg%20xmlns='http://www.w3.org/2000/svg'%20viewBox='0%200%201200%20800'%3E%3C/svg%3E)
![](data:image/svg+xml,%3Csvg%20xmlns='http://www.w3.org/2000/svg'%20viewBox='0%200%20800%201067'%3E%3C/svg%3E)
![](data:image/svg+xml,%3Csvg%20xmlns='http://www.w3.org/2000/svg'%20viewBox='0%200%20725%20480'%3E%3C/svg%3E)
![](data:image/svg+xml,%3Csvg%20xmlns='http://www.w3.org/2000/svg'%20viewBox='0%200%20500%20700'%3E%3C/svg%3E)
![](data:image/svg+xml,%3Csvg%20xmlns='http://www.w3.org/2000/svg'%20viewBox='0%200%20944%20944'%3E%3C/svg%3E)
![](data:image/svg+xml,%3Csvg%20xmlns='http://www.w3.org/2000/svg'%20viewBox='0%200%201920%201281'%3E%3C/svg%3E)
Relate content :
![](https://gloveclinic.com/wp-content/uploads/2024/02/422894572_706683161447546_1749712271998229747_n.jpg)
ฉีดวัคซีนงูสวัดที่ glove clinic
งูสวัดคือไวรัสชนิดหนึ่ง (Herpes zoster) ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสตัวเดียวกันกับอีสุกอีใส (Varicella zoster) เมื่อเราติดเชื้อไวรัสอีสุกใสในวัยเด็กแล้ว ไวรัสสามารถที่จะหลบซ่อนได้ในร่างกายเป็นเวลานานหลายปี จนกระทั่งเมื่อร่างกายอ่อนแอ ไวรัสนั้นจึงออกมาทำให้เกิดอาการตุ่มน้ำใส ปวดแสบร้อนตามบริเวณที่เส้นประสาทต่าง ๆ ของร่างกายซึ่งเรียกกันว่างูสวัด . ไวรัสงูสวัดสามารถทำให้เกิดการติดเชื้อของเส้นประสาทตำแหน่งต่าง ๆ ของร่างกาย โดยอาการของงูสวัดนั้น ผู้ป่วยมักจะมีอาการปวดแสบร้อนนำมาก่อน โดยอาการดังกล่าวก็คืออาการเส้นประสาทอักเสบจากไวรัสงูสวัดนั่นเอง . หลังจากอาการปวดแสบร้อน ก็จะมีตุ่มน้ำใสขึ้นตรงบริเวณที่ปวด ระยะนี้เชื้อสามารถแพร่กระจายให้ผู้อื่นได้ โดยถ้าผู้ป่วยได้รับยาต้านไวรัสทันเวลา ก็จะทำให้ตุ่มน้ำขึ้นไม่มาก และสามารถลดระยะเวลาของอาการปวดได้อีกด้วย โดยอาการปวดเส้นประสาทหลังติดเชื้อไวรัสงูสวัดนั้นสามารถเป็นเรื้อรัง และจำเป็นต้องใช้ยาแก้ปวดปลายประสาทในการรักษาเป็นเวลานานจนกว่าอาการจะดีขึ้นได้ . วัคซีนงูสวัด (Shingrix) สามารถป้องกันการเกิดโรคงูสวัดได้เป็นอย่างดี รวมถึงสามารถป้องกันการปวดปลายประสาทที่เกิดหลังการติดเชื้องูสวัดได้อีกด้วย โดยประสิทธิภาพในการป้องกันโรคของวัคซีนงูสวัด (Shingrix) นั้นสูงอย่างน้อย 90 % และระดับภูมิคุ้มกันต่องูสวัดหลังฉีดวัคซีนจะอยู่ไปนานอย่างน้อย 7 ปีหลังจากที่ฉีด . คำแนะนำสำหรับบุคคลทั่วไป แนะนำให้ฉีดวัคซีนงูสวัด (Shingrix) ได้ตั้งแต่เมื่ออายุ 50 ปีขึ้นไป นอกจากนั้นยังแนะนำให้ฉีดวัคซีนงูสวัด (Shingrix) ในกลุ่มคนอายุตั้งแต่ 19 ปีขึ้นไปและมีโรคเรื้อรังที่อาจทำให้ภูมิคุ้มกันบกพร่องและติดเชื้อได้ง่าย โดยการฉีดวัคซีนงูสวัด…![](https://gloveclinic.com/wp-content/uploads/2024/01/S__2465807-1.jpg)
ทอนซิลอักเสบจากเริม
ทอนซิลอักเสบจากเริม เริมหรือ herpes simplex เป็นไวรัสที่ติดต่อได้จากการการสัมผัสสิ่งคัดหลั่งที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัส ซึ่งโดยทั่วไปผู้ที่มีเชื้อเริมมักจะไม่มีอาการ และไม่รู้ว่าตัวเองมีเชื้อ และอาจมีตุ่มน้ำใสแตกเป็นแผลเวลาที่ร่างกายอ่อนแอ อาการที่พบบ่อยคือตุ่มน้ำมาที่บริเวณริมฝีปาก หรือที่บริเวณอวัยวะเพศ.โดยในรายที่รับเชื้อเริมจากออรัลเซ็กส์ ก็อาจจะทำให้เกิดแผลที่ทอนซิล มีอาการเหมือนทอนซิลอักเสบจนเป็นหนองได้ ตัวอย่างทอนซิลในภาพนี้ ผู้ป่วยเริ่มมีอาการไข้และเจ็บคอมากหลังจากมีเพศสัมพันธ์มา 4-5 วัน โดยได้รับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะจากหมอหูคอจมูกมาหนึ่งสัปดาห์แล้วแต่อาการยังไม่ดีขึ้น จึงได้มา swab PCR หาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ glove clinic ผลตรวจพบเชื้อ Herpes simplex virus type 2.เชื้อเริมสามารถรักษาได้ด้วยยาต้านไวรัส ในรายนี้หลังกินยาต้านไวรัสแล้วพบว่าหนองที่คอลดลงอย่างรวดเร็วหลังกินยาไปเพียง 2-3 วัน (ดังภาพ) รวมทั้งอาการเจ็บคอดีขึ้นมากเป็นลำดับ.การตรวจ PCR หาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เป็นการตรวจที่แม่นยำ และสามารถตรวจหาเชื้อก่อโรคได้หลายเชื้อในเวลาเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นหนองในแท้, หนองในเทียม, เริม, รวมถึงเชื้อแบคทีเรียอื่น ๆ โดยการตรวจใช้เวลา 1-2 วันจึงจะได้ผล และสามารถตรวจได้แม้จะไม่มีอาการก็ตาม สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 092-414-9254 หรือ Line Official @gloveclinic (มีแอดข้างหน้า)![](https://gloveclinic.com/wp-content/uploads/2020/05/03_service.jpg)
ตรวจ HIV รีวิวความรู้สำหรับการตรวจเอชไอวี (HIV test)
เอชไอวีคือไวรัสที่สามารถติดต่อได้จากการมีเพศสัมพันธ์, การใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน, และการติดจากแม่สู่ลูก เมื่อติดเชื้อไวรัส HIV ไวรัสจะทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายอ่อนแอลง และติดเชื้อโรคอื่น ๆ ได้ง่าย![](https://gloveclinic.com/wp-content/uploads/2023/11/S__2236423.jpg)
ปีนี้มีคนไข้ป่วยด้วยไข้เลือดออกมากกว่า 2-3 ปีที่ผ่านมา
เนื่องจากว่าผู้คนกลับมาใช้ชีวิตปกติ มีการเดินทาง จึงพบการระบาดมากขึ้น โดยจากสถิติของกรมควบคุมโรคพบว่ามีผู้ป่วยด้วยไข้เลือดออกในประเทศไทยเกินกว่า 60,000 รายไปแล้วทั้งปี 2566 ไข้เลือดออกเป็นโรคที่ก่อให้เกิดความรุนแรงได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนที่เป็นซ้ำครั้งที่ 2 จะมีโอกาสเกิดภาวะช๊อคและเสียชีวิตได้มากขึ้น (โอกาสเสียชีวิตอยู่ราว ๆ 1:1,000) วัคซีนไข้เลือดออกรุ่นใหม่สามารถครอบคลุมได้ทั้ง 4 สายพันธุ์และทั้งนี้ผลการศึกษาพบว่าช่วยป้องกันการติดเชื้อได้ถึง 80% และลดโอกาสการนอนโรงพยาบาลได้ถึง 90% นอกจากนี้ยังสามารถฉีดได้ทั้งในคนที่เคยและไม่เคยเป็นไข้เลือดออกมาก่อน (วัคซีนไข้เลือดออกรุ่นเก่าไม่ควรฉีดในคนที่ยังไม่เคยเป็นไข้เลือดออก) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องวัคซีนไข้เลือดออกได้ที่ 092-414-9254, Line Official @gloveclinic (มีแอดข้างหน้า)![](https://gloveclinic.com/wp-content/uploads/2023/11/S__14558014_0.jpg)
HIV แต่กำเนิด
ประเด็นร้อนที่ได้รับการพูดถึงอย่างมากในโลกออนไลน์ที่มีข้อความของนักศึกษาหญิงเปิดเผยว่าตัวเธอเองได้มีเพศสัมพันธ์แบบ one night stand เวลาไปเที่ยวกลางคืนบ่อยครั้ง และได้บอกความจริงว่าเธอเองมีเชื้อ HIV![](https://gloveclinic.com/wp-content/uploads/2023/10/partial-view-of-biochemist-holding-test-tubes-with-2022-12-16-19-36-44-utc-1.jpg)