294/1 Asia Building (11th Floor), Phyathai, Bangkok
อาการของ HIV

โดยทั่วไปอาการของผู้ติดเชื้อ HIV มักจะขึ้นกับระยะของการติดเชื้อของแต่ละคน โดยสามารถแบ่งได้เป็นระยะติดเชื้อฉับพลัน (acute HIV infection), ระยะที่ไม่มีอาการ (asymptomatic HIV infection) และระยะที่ภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือที่ชอบเรียกกันว่าโรคเอดส์ (AIDS or Advanced Immunodeficiency Syndrome)
ระยะของอาการ HIV
อาการในระยะติดเชื้อฉับพลัน
อาจพบได้ในคนไข้บางคนที่เพิ่งได้รับเชื้อไวรัส HIV มาประมาณ 10-14 วันโดยคนไข้อาจมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ กล่าวคือ ไข้สูง, เจ็บคอ, ปวดเมื่อยตัว บางรายอาจมีท้องเสียหรือผื่นตามตัวร่วมด้วย ตรวจร่างกายจะพบมีต่อมน้ำเหลืองโต โดยคนไข้ที่มีอาการติดเชื้อ HIV ในระยะนี้อาจถูกวินิจฉัยว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ หรือไข้เลือดออก ดังนั้นหากมีเซ็กส์ที่ไม่ได้ป้องกันในระยะเวลาที่เข้าได้ ก็ควรจะแจ้งแพทย์ผู้ตรวจเพื่อการตรวจวินิจฉัยให้แน่นอน
ระยะที่ไม่มีอาการ
ซึ่งผู้อยู่ร่วมกับเชื้อ HIV ส่วนใหญ่มักจะอยู่ในระยะนี้ ซึ่งเป็นระยะที่ภูมิคุ้มกันยังไม่ตก ดังนั้นจึงยังไม่มีอาการของการติดเชื้อฉวยโอกาส (opportunistic infection) หลังจากการรับเชื้อ HIV ในระยะแรกเข้าไป คนไข้จะยังสามารถอยู่ในระยะนี้ได้หลายปี โดยไม่แสดงอาการอะไรเลย ค่า CD4 ส่วนใหญ่จะยังเกิน 300-400 ขึ้นไป ทั้งนี้การที่ภูมิคุ้มกันจะตกเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งตัวคนไข้เอง, ปริมาณเชื้อไวรัสในร่างกาย, โรคประจำตัว, อายุ, รวมถึงไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนด้วย
ระยะภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือเอดส์
หากไม่ได้รับการวินิจฉัยและเริ่มยาต้านไวรัส ผู้อยู่ร่วมกับเชื้อ HIV จะเริ่มมีอาการของภูมิคุ้มกันบกพร่อง (ส่วนใหญ่เกิดใน 3-5 ปีหลังจากรับเชื้่อไวรัส) ซึ่งในช่วงแรกอาจจะเริ่มมีอาการท้องเสียเป็น ๆ หาย ๆ, ไอเรื้อร้ง รวมถึงผื่นแพ้ง่ายคลายตุ่มยุงกัด และเมื่อภูมิคุ้มกันบกพร่องจนค่า CD4 ต่ำกว่า 200 แล้ว คนไข้มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคติดเชื้อฉวยโอกาสอย่างเช่น วัณโรค (ไอเรื้อรัง, ไข้สูง, นำ้หนักลด), เชื้อราในช่องปาก (ฝ้าขาวบนลิ้นและกระพุ้งแก้ม), ปอดอักเสบจากเชื้อรา (ไอแห้ง, ไข้สูง, หายใจไม่อิ่ม) เป็นต้น ระยะเอดส์เป็นระยะที่คนไข้ต้องได้รับการวินิจฉัยและการรักษาด้วยยาต้านไวรัส และยาปฏิชีวนะสำหรับโรคแทรก ซึ่งถ้าได้รับการรักษาอย่างถูกต้องและทันท่วงที คนไข้สามารถฟื้นภูมิคุ้มกันตัวเองจนร่างกายแข็งแรงและสามารถกลับไปใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไปได้

การรักษาผู้ติดเชื้อ HIV
การรักษาจะได้ผลดีที่สุดหากได้เริ่มยาต้านไวรัสตั้งแต่คนไข้ยังไม่แสดงอาการของโรคแทรกซ้อน ดังนั้นการตรวจเลือดหาเชื้อไวรัส HIV สำหรับทุกคนที่มีความเสี่ยงติดเชื้อจึงสามารถช่วยลดโอกาสที่จะเกิดภูมิคุ้มกันบกพร่องในผู้อยู่ร่วมกับเชื้อ HIV
Make Appointment





Relate content :

รักษาหนองใน: เข้าใจทุกเรื่องเพื่อสุขภาพที่ดีที่ Glove Clinic
หนองในรักษาได้! บทความนี้ไขข้อสงสัยเกี่ยวกับหนองในแท้-เทียม อาการในผู้หญิง-ผู้ชาย ใช้เวลากี่วันหาย ยารักษาหนองในราคาเท่าไหร่? พร้อมปรึกษาที่ Glove Clinic ในกรุงเทพฯ.
ติดเชื้อ HIV: สิ่งที่คุณควรรู้เพื่อเข้าใจและดูแลตัวเองอย่างถูกต้องที่ Glove Clinic
คุณอาจ ติดเชื้อ HIV ได้จากไหน? อาการ ผู้ ติด เชื้อ HIV เป็นอย่างไร? ตรวจ HIV ราคาเท่าไหร่? ค้นหาคำตอบและ วิธี ดูแล ตัว เอง เมื่อ ติด เชื้อ HIV พร้อมปรึกษา ชุด ตรวจ HIV และ ยาต้านไวรัส ที่ Glove Clinic.
ยา PrEP คืออะไร? ตัวช่วยป้องกัน HIV ที่คุณควรรู้จัก
ทำความรู้จักยา PrEP ตัวช่วยป้องกัน HIV ประสิทธิภาพสูง! ค้นหาข้อมูลว่ายา PrEP คืออะไร หาซื้อได้ที่ไหน (รวม Glove Clinic) ควรกินตอนไหน มีแบบ On-Demand หรือไม่ พร้อมข้อควรรู้ทั้งหมด
ยาต้าน HIV: คู่มือครบวงจรเพื่อความเข้าใจและการป้องกันที่ Glove Clinic
ค้นหาคำตอบครบวงจรเกี่ยวกับยาต้าน HIV ทั้งยา PrEP, PEP ฉุกเฉิน, และ ART แบบฉีด พร้อมราคา วิธีใช้ และข้อควรระวัง รับคำปรึกษาที่ Glove Clinic ในกรุงเทพฯ โทร (+66) 02-219-3092.
ช่องคลอดอักเสบ: สาเหตุที่เกี่ยวข้องกับโรคทางเพศสัมพันธ์
กำลังเผชิญกับปัญหาช่องคลอดอักเสบ? บทความนี้จะไขข้อข้องใจเกี่ยวกับสาเหตุ อาการ และวิธีการรักษา รวมถึงการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์