294/1 Asia Building (11th Floor), Phyathai, Bangkok

อาการ HIV จากการติดเชื้อไวรัส

เอชไอวีและโรคเอดส์

HIV และโรคเอดส์มีความแตกต่างกันในแง่ของอาการ แต่กลับมีความเหมือนกันจากสาเหตุของเชื้อไวรัสตัวเดียว

HIV คืออะไร

HIV (Human Immunodeficiency Virus) คือ เชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่เป็นสาเหตุของโรคเอดส์ (AIDS) โดยเชื้อจะไปทำลายเม็ดขาว (CD4 lymphocyte) ทำให้เกิดภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง ร่างกายไม่สามารถต่อสู้กับเชื้อโรคได้ ในที่สุดก็จะติดเชื้อต่างๆหรือเชื้อฉวยโอกาสตามมา ทำให้มีอาการป่วยจนร่างกายอ่อนแอลง

การติดเชื้อ HIV

เชื้อ HIV สามารถติดต่อได้ 3 ทาง ได้แก่

  1. ทางเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน
  2. จากแม่สู่ลูกในขณะตั้งครรภ์
  3. การสัมผัสเลือด เช่น การใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน

อาการของ HIV

ระยะที่ 1 :เป็นระยะที่เชื้อแพร่กระจายเข้าสู่ร่างกาย มักมีอาการในช่วง 2-6 สัปดาห์ อาการคล้ายกับไข้หวัดใหญ่ ได้แก่ มีไข้ อ่อนเพลีย ปวดกล้ามเนื้อ เจ็บคอ ท้องเสีย ต่อมน้ำเหลืองโต น้ำหนักลด หรือในบางคนอาจไม่มีอาการก็ได้เชื้อจะค่อยๆ ไปทำลายเม็ดเลือดขาว CD4 lymphocyte และเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ

 ระยะที่ 2 : เป็นระยะที่ร่างกายภูมิคุ้มกันเริ่มต่ำลง อาการต่างๆจะหายไป จากระยะแรกสู่ระยะนี้ในบางคนอาจใช้เวลาถึง 10 ปีได้ ซึ่งเป็นระยะที่ไม่แสดงอาการนั่นเอง

โรคเอดส์คืออะไร

โรคเอดส์คือระยะที่ 3 ของการติดเชื้อ HIV เป็นระยะที่เรียกว่า เอดส์ ซึ่งเป็นระยะที่ร่างกายมีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง ไม่สามารถกำจัดเชื้อโรคต่างๆ ที่เข้าสู่ร่างกายได้ ทำให้มีการติดเชื้อฉวยโอกาส เช่น เชื้อรา วัณโรค ทำให้มีอาการหลายอย่าง ได้แก่ เป็นไข้นาน มีผื่นขึ้นตามตัว มีต่อมน้ำเหลืองโตหลายๆที่ ไอเรื้อรัง ปอดอักเสบ เหนื่อยเพลีย น้ำหนักลด ท้องเสียเรื้อรัง หากปล่อยไว้ไม่รีบทำการรักษา อาจทำให้เสียชีวิตได้

การวินิจฉัย การตรวจ HIV

การวินิจฉัยการติดเชื้อ HIV สามารถทำได้โดยการตรวจเลือด โดยปัจจุบันสามารถตรวจพบได้ค่อยข้างเร็วเมื่อเปรียบเทียบกับสมัยก่อน โดยสามารถตรวได้หลายวิธี เช่น การตรวจ PCR (หลังเสี่ยงมา 10-14 วัน), การตรวจหาแอนตี้บอดี้ด้วยชุดตรวจ 3rd gen (หลังเสี่ยงมา 21 วัน) และชุดตรวจ 4th gen (หลังเสี่ยงมา 14 วัน)

การรักษา HIV และเอดส์

ในปัจจุบันการรักษา HIV ยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถทานยาต้านไวรัสได้ ซึ่งยาต้านไวรัสในปัจจุบันมีประสิทธิภาพที่ดีมาก ถ้าหากตรวจพบเชื้อแล้วรีบเข้ารับการรักษา จะทำให้ไวรัสไม่สามารถเพิ่มจำนวนได้ ไม่เกิดภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง เมื่อไม่ติดเชื้อฉวยโอกาสก็จะไม่เจ็บป่วย ทำให้สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ตามปกติ

การป้องกัน

ถุงยางอนามัย การทานยา PrEP/PEP

การรักษาด้วยยาต้านไวรัส (U=U)

Make Appointment

Relate content :

ช่องคลอดอักเสบ: สาเหตุที่เกี่ยวข้องกับโรคทางเพศสัมพันธ์

กำลังเผชิญกับปัญหาช่องคลอดอักเสบ? บทความนี้จะไขข้อข้องใจเกี่ยวกับสาเหตุ อาการ และวิธีการรักษา รวมถึงการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

ยา PEP (เป๊ป) ราคาแพงไหม

ต้องการยา PEP? บทความนี้จะบอกทุกสิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับยา PEP ตั้งแต่ราคา วิธีการใช้ ไปจนถึงสถานที่หาซื้อ

การรักษา HIV คู่มือสำหรับผู้มีความเสี่ยง

อย่าปล่อยให้ HIV ควบคุมชีวิตคุณ! คลิกอ่านเพื่อเรียนรู้วิธีดูแลตัวเองและมีชีวิตที่สมบูรณ์พร้อมเคล็ดลับดูแลสุขภาพ

ชุดตรวจ HIV ตรวจได้เองที่บ้าน

ชุดตรวจ HIV หรือ HIV self-test เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้บุคคลสามารถตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวีเบื้องต้นด้วยตนเองได้ที่บ้านหรือสถานที่ที่สะดวก โดยไม่ต้องไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล การตรวจ HIV ด้วยตนเองเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยให้ผู้ที่มีความเสี่ยงสามารถเข้าถึงการตรวจได้ง่ายขึ้น รวดเร็วขึ้น และมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

ยาเพร็พ (PrEP) ป้องกันเอชไอวีได้จริงหรือ? มาไขข้อข้องใจกัน

ปกป้องตัวเองจาก HIV ด้วยยาเพร็พ (PrEP) เพิ่มความมั่นใจในชีวิตด้วยการป้องกันที่ได้ผล ไขข้อข้องใจโดยคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ

ยาต้าน HIV: ก้าวสำคัญสู่ชีวิตที่มีคุณภาพ

ยาต้าน HIV: ก้าวสำคัญสู่ชีวิตที่มีคุณภาพ ยาต้าน HIV หรือยาต้านไวรัสเอชไอวี คือกลุ่มยาที่ใช้ในการรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวี ยาเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการยับยั้งการเพิ่มจำนวนของไวรัสเอชไอวีในร่างกาย ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดีขึ้น และช่วยป้องกันไม่ให้เกิดโรคแทรกซ้อน ทำไมต้องใช้ยาต้าน HIV ยาต้าน HIV ทำงานอย่างไร ยาต้าน HIV ทำงานโดยการยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ที่ไวรัสเอชไอวีต้องการในการเพิ่มจำนวนตัวเอง เมื่อไวรัสไม่สามารถเพิ่มจำนวนได้ ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายก็จะสามารถต่อสู้กับเชื้อได้ดีขึ้น ประเภทของยาต้าน HIV การเลือกใช้ยาต้าน HIV การเลือกใช้ยาต้าน HIV ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น: การใช้ยาต้าน HIV ร่วมกับยาอื่นๆ ยาต้าน HIV บางชนิดอาจมีปฏิกิริยากับยาอื่นๆ ที่ผู้ป่วยกำลังรับประทานอยู่ ดังนั้นจึงควรแจ้งให้แพทย์ทราบถึงยาที่กำลังรับประทานอยู่ทั้งหมดก่อนเริ่มรับประทานยาต้าน HIV ผลข้างเคียงของยาต้าน HIV ยาต้าน HIV อาจมีผลข้างเคียงบ้าง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดหัว หรือปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ แต่ผลข้างเคียงเหล่านี้มักจะหายไปเอง หรือสามารถบรรเทาได้ด้วยการปรับเปลี่ยนขนาดยาหรือเปลี่ยนชนิดยา การใช้ยาต้าน HIV ชีวิตหลังการเริ่มใช้ยาต้าน HIV การใช้ยาต้าน HIV…

Tag :

We use cookies to improve performance. and good experience using your website. You can study details at Privacy Policy and can manage your own privacy by clicking on Settings

Privacy Preferences

You can choose your cookie settings by turning them on/off. Cookies of each type are available on request, except essential cookies.

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Strictly necessary cookies
    Always Active

    These types of cookies are essential for the website to function. so that you can use it normally and visit the website You cannot disable cookies in our website system.

  • คุกกี้ที่จำเป็น

    These types of cookies are essential for the website to function. so that you can use it normally and visit the website You cannot disable cookies in our website system.

Save