บทความ
ฝีดาษลิง อาการและการรักษา
Monkeypox หรือฝีดาษลิง ขณะนี้ได้มีการแพร่กระจายในกลุ่ม LGBTQ อย่างต่อเนื่องในประเทศไทย โดยจากข้อมูลของกรมควบคุมโรคล่าสุด 21 ส.ค. 66 มีคนไข้ติดเชื้อฝีดาษทั้งหมดเกือบ 200 ราย ซึ่งในความเป็นจริงคงยังมีคนไข้ที่มีอาการแต่ไม่ได้เข้าระบบอีกมาก ทำให้ตัวเลขที่แสดงน่าจะต่ำกว่าความเป็นจริง คนไข้อาจจะมาด้วยไข้หรือปวดเมื่อยตัว 3-5 วันก่อนที่จะเริ่มสังเกตว่ามีตุ่มน้ำตามตัว การสังเกตตุ่มน้ำที่เป็นลักษณะจำเพาะของฝีดาษลิงนั้น ก็คือตุ่มน้ำมักจะอยู่เดี่ยว ๆ และมีขนาดใหญ่กว่าตุ่มน้ำทั่วไป และยังอาจเห็นลักษณะเหมือนหัวหนองที่ตุ่มน้ำได้อีกด้วย บางรายอาจจะนำมาด้วยแผลที่อวัยวะเพศซึ่งก็คือทางเข้าของเชื้อฝีดาษลิง และมีต่อมน้ำเหลืองโตบริเวณขาหนีบร่วมด้วย แม้จะมีรายงานผู้เสียชีวิตจากโรคฝีดาษลิงอยู่บ้าง แต่สถิติของการเสียชีวิตถือว่าต่ำมากโดยอยู่ราว ๆ 1 ต่อ 1,000 ราย ดังนั้นแม้ว่าโรคจะติดต่อได้ง่ายโดยการสัมผัสใกล้ชิดแต่ก็ไม่ได้มีความรุนแรงมากนัก ยกเว้นในคนไข้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง ส่วนการรักษาหลัก ๆ นั้นคือการรักษาตามอาการเหมือนการติดเชื้อไวรัสอื่น ๆ แต่ในรายที่ติดเชื้อรุนแรงและมีความเสี่ยงถึงแก่ชีวิตอาจพิจารณาเลือกใช้ยาต้านไวรัส tecovirimat ซึ่งเป็นยาที่ใช้รักษาฝีดาษ (smallpox) ในอดีต ปัจจุบันยังไม่มีการฉีดวัคซีนป้องกันฝีดาษลิงในประเทศไทย ดังนั้นจึงยังไม่มีการป้องกันที่มีประสิทธิภาพที่ดีพอ คนที่เคยได้รับวัคซีนฝีดาษมาก่อนอาจจะยังมีภูมิคุ้มกันต่อฝีดาษลิงอยู่บ้าง อาจจะสามารถป้องกันการติดเชื้อฝีดาษลิงได้หรือถ้ากรณีที่ติดเชื้อฝีดาษลิงก็อาจจะมีอาการไม่มาก หากคู่นอนของคุณมีผื่นหรือตุ่มน้ำที่น่าสงสัยก็ควรแนะนำให้ไปตรวจหาเชื้อฝีดาษลิงด้วยวิธี PCR นอกจากนี้ก็ควรงดการมีเซ็กส์รวมถึงสัมผัสใกล้ชิดกับบุคคลที่สงสัยว่าติดเชื้อฝีดาษลิง โดยระยะเวลาที่สามารถแพร่เชื้อได้ของผู้ที่มีเชื้อฝีดาษลิงโดยประมาณคือ 21 วันโดยนับจากวันแรกที่เริ่มมีอาการ
การป้องกันภัยเงียบด้วยการฉีดวัคซีน HPV
Human papillomavirus (HPV) เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบบ่อยที่สุดทั่วโลก อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนทางสุขภาพต่างๆ รวมถึงหูดที่อวัยวะเพศและมะเร็งบางชนิด อย่างไรก็ตาม มีเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการต่อสู้กับภัยเงียบนี้ นั่นคือ วัคซีน HPV ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ HPV: HPV หมายถึงกลุ่มของไวรัสที่ติดเชื้อในผิวหนังและเยื่อเมือก ส่วนใหญ่ติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ และใครก็ตามที่มีเพศสัมพันธ์มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้ เชื้อ HPV มีมากกว่า 100 ชนิด โดยบางสายพันธุ์มีความเสี่ยงสูงในการก่อให้เกิดมะเร็ง และเชื้ออื่นๆ ที่ก่อให้เกิดหูดที่อวัยวะเพศ ความสำคัญของการฉีดวัคซีน HPV: การป้องกันมะเร็งปากมดลูก: การติดเชื้อ HPV เป็นสาเหตุสำคัญของมะเร็งปากมดลูก การฉีดวัคซีนสามารถลดความเสี่ยงของการเกิดโรคที่คุกคามชีวิตนี้ได้อย่างมาก เป็นสิ่งสำคัญสำหรับเยาวชน ทั้งชายและหญิงที่จะต้องได้รับการฉีดวัคซีนก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์ การป้องกันมะเร็งอื่นๆ: นอกจากมะเร็งปากมดลูกแล้ว HPV ยังสามารถก่อให้เกิดมะเร็งชนิดอื่นๆ ได้อีกด้วย เช่น มะเร็งทวารหนัก ช่องคลอด ปากช่องคลอด องคชาติ และมะเร็งช่องปาก (คอ) การฉีดวัคซีนทำให้แต่ละคนมีโอกาสเกิดมะเร็งเหล่านี้น้อยลงในภายหลัง การป้องกันหูดที่อวัยวะเพศ: สายพันธุ์ HPV ที่ทำให้เกิดหูดที่อวัยวะเพศนั้นติดต่อได้สูง วัคซีนป้องกันสายพันธุ์เหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงของการแพร่เชื้อและการเกิดหูดที่อวัยวะเพศ Herd Immunity: การฉีดวัคซีน HPV ไม่เพียงแต่ปกป้องผู้ที่ได้รับวัคซีนเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างภูมิคุ้มกันหมู่อีกด้วย โดยการลดความชุกของเชื้อ HPV ในชุมชน วัคซีนจะช่วยปกป้องบุคคลที่ไม่ได้รับวัคซีน รวมถึงผู้ที่ไม่สามารถรับวัคซีนได้เนื่องจากเหตุผลทางการแพทย์ ความปลอดภัยและประสิทธิผลของวัคซีน: การวิจัยอย่างกว้างขวางและการทดลองทางคลินิกจำนวนมากได้แสดงให้เห็นถึงความปลอดภัยและประสิทธิผล ของวัคซีนเอชพีวี วัคซีนนี้แนะนำสำหรับทั้งชายและหญิง โดยทั่วไปแล้วฉีดสองหรือสามครั้งในช่วงหลายเดือน ผลข้างเคียงที่พบบ่อย (หากมี) จะไม่รุนแรงและเกิดขึ้นชั่วคราว เช่น อาการเจ็บบริเวณที่ฉีด วัคซีน HPV เป็นเครื่องมือสำคัญในการป้องกันภาวะแทรกซ้อนทางสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับ HPV รวมถึงมะเร็งปากมดลูกและหูดที่อวัยวะเพศ โดยการฉีดวัคซีน บุคคลต่างๆ ไม่เพียงแต่ป้องกันตนเองเท่านั้น แต่ยังช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อ HPV ในชุมชนโดยรวมอีกด้วย ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัคซีน HPV และความเหมาะสมสำหรับคุณหรือคนที่คุณรักไม่ว่าเพศใดก็ตาม เพราะการป้องกันย่อมดีกว่าการรักษาเสมอครับ สำหรับท่านที่สนใจ หรือต้องการสอบถามเกี่ยวกับวัคซีนป้องกันไวรัส HPV เพิ่มเติมสามารถติดต่อโกลฟคลินิกได้ทาง Line Official (@gloveclinic) หรือ inbox ผ่านเพจ Glove…
การตรวจ รักษา ซิฟิลิส
หลายคนงงว่าได้ซิฟิลิสมาได้ยังไงทั้งที่ตัวเองใส่ถุงป้องกันอย่างดี ความเป็นจริงซิฟิลิสนั้นติดง่ายมากโดยเฉพาะระยะที่สอง (secondary syphilis) เคยมีการศึกษาแสดงให้เห็นว่าเพียงแค่การมีออรัลเซกส์อย่างเดียวกับคนที่มีเชื้อซิฟิลิส ก็ทำให้มีโอกาสติดซิฟิลิสถึง 10-15% นอกจากนั้นเมื่อได้รับเชื้อซิฟิลิสมาแล้วก็มักจะไม่มีอาการ ทำให้เราควบคุมการระบาดได้ยาก การตรวจเลือดสกรีนหาเชื้อซิฟิลิสเป็นระยะ (ทุก 3-6 เดือนขึ้นกับความเสี่ยง) จะทำให้เรามั่นใจและสามารถรักษาโรคได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ อาการของซิฟิลิส ซิฟิลิสเป็นโรคที่มีการดำเนินโรคค่อนข้างช้า โดยซิฟิลิสในระยะแรก (primary syphilis) นั้นเกิดหลังจากได้รับเชื้อ 3-4 อาทิตย์ (เฉลี่ย 10-90 วัน) โดยคนไข้อาจมีแผลตรงทางเข้าของเชื้อ และมักจะเป็นแผลขอบเรียบและไม่เจ็บ ดังนั้นแผลอาจจะเกิดได้ที่ริมฝีปาก, อวัยวะเพศ, หรือรูทวารหนักก็ย่อมได้ คนไข้หลายรายอาจไม่รู้สึกว่าเป็นแผลด้วยซ้ำไปจึงทำให้ไม่ได้มาตรวจรักษา ซิฟิลิสในระยะที่สอง (secondary syphilis) มักเกิดหลังได้รับเชื้อไปเป็นเวลา 2-3 เดือน ระยะนี้คนไข้มักจะมีผื่นนูนแดงกระจายตามบริเวณต่าง ๆ ของร่างกายลักษณะที่ค่อนข้างจำเพาะของผื่นที่เกิดจากซิฟิลิสคือผื่นมักจะปรากฏที่บริเวณฝ่ามือและฝ่าเท้า ซึ่งในระยะที่สองนี้คนไข้อาจจะมีไข้หรือต่อมน้ำเหลืองโตร่วมด้วยเนื่องจากเป็นระยะที่เชื้อมีจำนวนมากในร่างกาย ทั้งยังสามารถแพร่กระจายให้คนที่มีเพศสัมพันธ์ด้วยค่อนข้างง่ายถึงแม้ว่าจะมีแค่ออรัลเซ็กส์ก็ตาม หลังจากนั้นซิฟิลิสสามารถหลบซ่อนอยู่ในร่างกายโดยไม่แสดงอาการได้เป็นระยะเวลาหลายปี ดังนั้นการตรวจเลือดเพื่อหาเชื้อซิฟิลิสแม้ว่าผู้ป่วยจะไม่มีอาการ จึงยังมีความสำคัญมากในคนที่มีความเสี่ยง ซิฟิลิสระยะที่สาม (tertiary syphilis) มักจะเกิดเมื่อมีเชื้อซิฟิลิสมานานแล้วไม่ได้รักษาโดยในระยะนี้เชื้อซิฟิลิสสามารถเข้าไปในสมองหรือระบบประสาทส่วนกลาง (neurosyphilis) ทั้งยังสามารถทำให้เกิดจอตาอักเสบ หรือการอักเสบของเส้นเลือดแดงใหญ่ได้ ซึ่งระยะนี้จะเป็นระยะที่อันตรายเนื่องจากไปกระทบอวัยวะสำคัญ และยังรักษาได้ยากอีกด้วย ซิฟิลิสสามารถรักษาได้ไหม ซิฟิลิสสามารถรักษาได้ โดยยาเพนนิซิลลินซึ่งถูกค้นพบโดย Alexander Fleming ได้ถูกนำมาใช้เป็นยารักษาหลักของซิฟิลิสมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1943 จนกระทั่งปัจจุบัน และเนื่องจากซิฟิลิสเป็นเชื้อที่ติดได้ง่ายจากเพศสัมพันธ์แถมยังอาจไม่แสดงอาการ ในปัจจุบันจึงเริ่มมีการใช้ยาปฏิชีวนะชื่อ doxycycline ซึ่งเป็นยาที่สามารถใช้รักษาซิฟิลิสและยังมีผลข้างเคียงที่ต่ำ โดยนำเอา doxycycline มาใช้เพื่อป้องกันการติดเชื้อซิฟิลิสหลังมีเพศสัมพันธ์และเรียกกันว่า Doxy-Pep การป้องกันซิฟิลิส วิธีหนึ่งที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการป้องกันซิฟิลิสคือการฝึกมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย ใช้วิธีป้องกันทุกครั้ง เช่น ถุงยางอนามัย ซึ่งทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกัน ลดความเสี่ยงของการแพร่เชื้อ การตรวจหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STIs) เป็นประจำเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีเพศสัมพันธ์หรือมีคู่นอนหลายคน การทดสอบช่วยให้สามารถตรวจพบและรักษาโรคซิฟิลิสได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ช่วยลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนและการแพร่เชื้อต่อไป ทราบประวัติทางเพศของคู่ของคุณ โดยการสื่อสารอย่างเปิดเผยและตรงไปตรงมาเกี่ยวกับประวัติทางเพศเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันโรคซิฟิลิส การป้องกันโรคซิฟิลิสต้องใช้แนวทางเชิงรุกในการดูแลสุขภาพทางเพศ การปฏิบัติทางเพศอย่างปลอดภัย รับการทดสอบ STI เป็นประจำ และการสื่อสารอย่างเปิดเผยกับคู่นอน จะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อซิฟิลิสได้อย่างมาก สำหรับท่านที่สนใจ หรือต้องการสอบถามเกี่ยวกับการตรวจซิฟิลิส เพิ่มเติมสามารถติดต่อโกลฟคลินิกได้ทาง Line Official (@gloveclinic) หรือ…
รู้จักยา PrEP ทุกยี่ห้อในไทย
รอบนี้เรามาถือโอกาสรีวิวยา PrEP ที่ใช้กันในประเทศไทย โดยหลักการแล้วง่ายนิดเดียวคือ เพร็พสูตรใหม่ emtricitabine/tenofovir alafenamide หรือ Descovy และเพร็พสูตรที่ใช้กันมานานแล้ว emtricitabine/tenofovir disoproxil fumarate ซึ่งมีหลายยี่ห้อที่ใช้กันได้แก่ Truvada, Ricovir-EM, Teno-EM, Tenof EMรับคำปรึกษาเรื่องยา PrEP รีวิวยา PrEP ยา PrEP ยี่ห้อ Truvada โดย Truvada นั้นก็คือยา PrEP ที่ผลิตโดยบริษัท Gilead ที่ได้รับ approve ตั้งแต่ปี 2012 ให้นำมาใช้เป็นยาสำหรับกินป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี หรือ ยา PrEP ซึ่งต่อมาก็มียา generic (ยาที่มีสูตรยาเดียวกับยา original) ตามกันมาตั้งแต่ Ricovir-EM (Mylan), Teno-EM (GPO), Tenof EM (Camber) โดยยาทั้งหมดที่กล่าวถึงนี้มีโครงสร้างเดียวกัน ประกอบด้วยยาต้านไวรัส 2 ชนิด (emtricitabine และ tenofovir disoproxil fumarate) ซึ่งมีข้อแตกต่างในแง่ผลข้างเคียงไม่มากนักเนื่องจากเป็นยาสูตรเดียวกัน แต่ราคาของ Truvada จะสูงกว่าตัวอื่นเนื่องจากเป็นยา original ยา PrEP ยี่ห้อ Descovy ส่วนยา Descovy ซึ่งผลิตโดยบริษัท Gilead เช่นเดียวกับ Truvuda นั้นได้รับการ approve ให้ใช้เป็นยา PrEP ตั้งแต่ปี 2019 ซึ่ง Descovy (emtricitabine/tenofovir alafenamide) เองเป็นยาสูตรที่พัฒนามาจาก Truvada ซึ่งจะเห็นได้ว่าชื่อสูตรยามีความคล้ายคลึงกัน โดยที่ Descovy เองนั้นหากกินในระยะเวลานานจะมีผลข้างเคียงต่อร่างกายน้อยกว่า Truvada เพราะตัว tenofovir alafenamide (หรือเรียกง่าย ๆ ว่า TAF)…
ยาต้านไวรัส HIV ในประเทศไทย
ปัจจุบันยาต้านไวรัส HIV ได้ถูกพัฒนาจากสูตรยาต้านเดิมที่เคยใช้เมื่อ 10-20 ปีก่อนไปมากแล้วครับ โดยในประเทศไทยเองก็มีสูตรยาใหม่ ๆ ซึ่งหลายสูตรที่ใช้แล้วมีประสิทธิภาพควบคุมไวรัส HIV ได้ดี แถมยังมีผลข้างเคียงต่อร่างกายน้อยมาก ๆ
อาการของ HIV
โดยทั่วไปอาการของผู้ติดเชื้อ HIV มักจะขึ้นกับระยะของการติดเชื้อของแต่ละคน โดยสามารถแบ่งได้เป็นระยะติดเชื้อฉับพลัน (acute HIV infection), ระยะที่ไม่มีอาการ (asymptomatic HIV infection) และระยะที่ภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือที่ชอบเรียกกันว่าโรคเอดส์ (AIDS or Advanced Immunodeficiency Syndrome)
แค่ภายนอกออรัลกันเฉยๆ ติดซิฟิลิสได้ !
หลายคนงงว่าได้ซิฟิลิสมาได้ยังไงทั้งที่ตัวเองใส่ถุงป้องกันอย่างดี ความเป็นจริงซิฟิลิสนั้นติดง่ายมากโดยเฉพาะระยะที่สอง (secondary syphilis) เคยมีการศึกษาแสดงให้เห็นว่าเพียงแค่การมีออรัลเซกส์อย่างเดียวกับคนที่มีเชื้อซิฟิลิส ก็ทำให้มีโอกาสติดซิฟิลิสถึง 10-15% เกร็ดที่น่าสนใจเกี่ยวกับซิฟิลิส เมื่อพูดถึงประวัติศาสตร์ของเชื้อซิฟิลิสนั้น อาจจะต้องย้อนไปหลายร้อยปีโดยจุดเริ่มต้นของการระบาดครั้งใหญ่เกิดในช่วงปลายคริสตศตวรรษที่ 15 ในยุโรปขณะที่กองทัพของฝรั่งเศสบุกเข้าเมืองเนเปิลส์ของอิตาลี หมอของอิตาลีในขณะนั้นตรวจพบทหารฝรั่งเศสที่ป่วยด้วยอาการตุ่มหนองขึ้นกระจายตามร่างกายซึ่งไม่เหมือนกับโรคเรื้อนหรือโรคเท้าช้างที่เคยรู้จักมาก่อน ก่อนที่จะชื่อว่าซิฟิลิสนั้น การเรียกชื่อโรคก็เป็นไปตามความเกลียดชังของคนในสมัยนั้น เช่น คนอิตาลี, คนอังกฤษ, คนเยอรมันในสมัยนั้นก็จะเรียกโรคนี้ว่า French disease หรือโรคของคนฝรั่งเศส ในขณะที่คนฝรั่งเศเองก็จะเรียกโรคนี้ว่า Neapolitan disease หรือโรคของชาวเนเปิลส์ เป็นต้น ชื่อโรคซิฟิลิสนั้นถูกเรียกจากหนังสือนิยายที่แต่งขึ้นในปีค.ศ. 1530 เรื่อง Syphilus sive Morbus Gallicus โดยกวีชาวอิตาลีโดยตัวเอกในเรื่องชื่อ Syphilus ถูกสาปโดยเทพเจ้า Apollo ให้เป็นโรคที่น่าอับอายโดยตั้งชื่อโรคนี้ในหนังสือว่า syphilis ตามชื่อตัวเอกในเรื่อง เชื้อซิฟิลิสถูกตรวจพบเป็นครั้งแรกในปีค.ศ. 1905 โดยแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมัน 2 คน (Erich Hoffmann และ Fritz Schaudinn) โดยพบแบคทีเรียที่เป็นรูปทรงขดม้วนจากผื่นที่ช่องคลอดของคนไข้ที่มีซิฟิลิสในระยะที่สอง (secondary syphilis) ยาเพนนิซิลลินซึ่งถูกค้นพบโดย Alexander Fleming ได้ถูกนำมาใช้เป็นยารักษาหลักของซิฟิลิสมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1943 จนกระทั่งปัจจุบัน ซิฟิลิสเป็นโรคที่มีการดำเนินโรคค่อนข้างช้า โดยซิฟิลิสในระยะแรก (primary syphilis) นั้นเกิดหลังจากได้รับเชื้อ 3-4 อาทิตย์ (เฉลี่ย 10-90 วัน) โดยคนไข้อาจมีแผลตรงทางเข้าของเชื้อ และมักจะเป็นแผลขอบเรียบและไม่เจ็บ ดังนั้นแผลอาจจะเกิดได้ที่ริมฝีปาก, อวัยวะเพศ, หรือรูทวารหนักก็ย่อมได้ คนไข้หลายรายอาจไม่รู้สึกว่าเป็นแผลด้วยซ้ำไปจึงทำให้ไม่ได้มาตรวจรักษา ซิฟิลิสในระยะที่สอง (secondary syphilis) มักเกิดหลังได้รับเชื้อไปเป็นเวลา 2-3 เดือน ระยะนี้คนไข้มักจะมีผื่นนูนแดงกระจายตามบริเวณต่าง ๆ ของร่างกายลักษณะที่ค่อนข้างจำเพาะของผื่นที่เกิดจากซิฟิลิสคือผื่นมักจะปรากฏที่บริเวณฝ่ามือและฝ่าเท้า ซึ่งในระยะที่สองนี้คนไข้อาจจะมีไข้หรือต่อมน้ำเหลืองโตร่วมด้วยเนื่องจากเป็นระยะที่เชื้อมีจำนวนมากในร่างกาย ทั้งยังสามารถแพร่กระจายให้คนที่มีเพศสัมพันธ์ด้วยค่อนข้างง่ายถึงแม้ว่าจะมีแค่ออรัลเซ็กส์ก็ตาม หลังจากนั้นซิฟิลิสสามารถหลบซ่อนอยู่ในร่างกายโดยไม่แสดงอาการได้เป็นระยะเวลาหลายปี ดังนั้นการตรวจเลือดเพื่อหาเชื้อซิฟิลิสแม้ว่าผู้ป่วยจะไม่มีอาการ จึงยังมีความสำคัญมากในคนที่มีความเสี่ยง ซิฟิลิสระยะที่สาม (tertiary syphilis) มักจะเกิดเมื่อมีเชื้อซิฟิลิสมานานแล้วไม่ได้รักษาโดยในระยะนี้เชื้อซิฟิลิสสามารถเข้าไปในสมองหรือระบบประสาทส่วนกลาง (neurosyphilis) ทั้งยังสามารถทำให้เกิดจอตาอักเสบ หรือการอักเสบของเส้นเลือดแดงใหญ่ได้ ซึ่งระยะนี้จะเป็นระยะที่อันตรายเนื่องจากไปกระทบอวัยวะสำคัญ และยังรักษาได้ยากอีกด้วย เนื่องจากซิฟิลิสเป็นเชื้อที่ติดได้ง่ายจากเพศสัมพันธ์แถมยังอาจไม่แสดงอาการ…
พี่เล็ก ชาญวิทย์ ปาคำ จากวัยรุ่นเมืองเหนือสู่ผู้ให้คำปรึกษาด้านเอชไอวี
วันนี้เราจะมาคุยกับพี่เล็ก ชาญวิทย์ ปาคำ ผู้ให้คำปรึกษาด้านเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ประสบการณ์มากกว่า 20 ปี
6 คำถามเกี่ยวกับ HPV Vaccine (วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก มะเร็งทวารหนัก และหูดหงอนไก่)
วัคซีนป้องกันเชื้อ HPV แบบ 4 ชนิดต่างกับแบบ 9 ชนิดยังไงบ้าง?
วัคซีนงูสวัด / Shingles vaccine
วัคซีนงูสวัดเหมาะสำหรับผู้สูงอายุ 50 ปีขึ้นไป เพราะคนวัยนี้เมื่อเกิดโรคงูสวัดจะมีภาวะแทรกซ้อนรุนแรงกว่าวัยอื่น
วัคซีนปอดอักเสบ Prevnar13 + Pneumovax23
โรคปอดอักเสบ (Pneumonia) เป็นโรคในระบบทางเดินหายใจแบบเฉียบพลันที่พบบ่อย โดยเฉพาะในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันร่างกายอ่อนแอ
Hepatitis B vaccine
วัคซีนไวรัสตับอักเสบบีประกอบด้วยโปรตีนที่ผิวของไวรัส (HBsAg) ซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกแบบใหม่ / Thin Prep PAP smear
ข้อมูลจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติระบุว่า มะเร็งปากมดลูก (Cervical cancer) เป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับ 2 ของหญิงไทย
พยาธิในช่องคลอด / Trichomoniasis
พยาธิในช่องคลอด เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากเชื้อโปรโตซัว Trichomonas vaginalis ซึ่งพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย
ไวรัสตับอักเสบ เอ (Viral hepatitis A)
ถึงแม้ว่าโรคไวรัสตับอักเสบชนิดเอ จะไม่ใช่โรคที่รุนแรงหรือโรคเรื้อรัง แต่ก็เป็นโรคที่ติดต่อกันได้ง่าย
ช่องคลอดอักเสบ / Bacterial vaginosis
ช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย คือ การติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอดและเกิดการอักเสบต่อมา พบได้บ่อยมากแม้จะไม่เคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อน
เชื้อราในช่องคลอด / Vaginal candidiasis
เชื้อราในช่องคลอดเป็นอีกโรคที่พบได้บ่อยในผู้หญิง ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อราทำให้มีอาการคันและมีตกขาวผิดปกติได้
อุ้งเชิงกรานอักเสบ (Pelvic inflmmatory disease – PID)
อุ้งเชิงกรานอักเสบ (Pelvic Inflamatory Disease) คือ การติดเชื้อบริเวณระบบสืบพันธุ์ในเพศหญิง บริเวณมดลูก ปีกมดลูก และท่อนำไข่
ยูเรียพลาสมา/ไมโคพลาสมา
เป็นเชื้อแบคทีเรียกลุ่มหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคหนองในเทียม
โรคเริม / Herpes
โรคเริม เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากเชื้อไวรัส Herpes Simpextype 1, Herpes Simplex type 2
โรคหนองในเทียม / Non-gonococcal infection
หนองในเทียม เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียตัวอื่นๆ ที่ไม่ใช่หนองในแท้
โรคหนองในแท้ / Gonorrhea
หนองในแท้ เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า Neisseria gonorrhea
เอชพีวีและหูดหงอนไก่ / HPV and genital wart / condyloma accuminata
หูดหงอนไก่ เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากเชื้อไวรัส Human Papilloma Virus (HPV) ซึ่งมีมากกว่า 40 สายพันธุ์
เอชไอวีและโรคเอดส์
HIV (Human Immunodeficiency Virus) คือ เชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่เป็นสาเหตุของโรคเอดส์ (AIDS) โดยเชื้อจะไปทำลายเม็ดขาว (CD4 lymphocyte)
ซิฟิลิส / Syphilis
ซิฟิลิส เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า Treponema pallidum มีรูปร่างเป็นเกลียวและมีขนาดเล็กมาก
ไวรัสตับอักเสบบี / Hepatitis B
ตับเป็นอวัยวะสำคัญในการจัดการสารอาหาร, กรองของเสียในเลือด, และช่วยต่อสู้กับภาวะติดเชื้อ